ประวัติโรคประจำตัว – ปฏิเสธ
25/3/54 มาพบแพทย์ด้วยเรื่อง มีอาการปวดเข่าข้างขวา มาเรื้อรัง 5 ปี เคยไปพบแพทย์ วินิจฉัยเป็นเส้นเอ็นเข่าอักเสบ เรื้อรัง เคยได้รับการฉีดเสตียรอยด์ 8 ครั้ง ครั้งสุดท้าย หลังฉีดยาอาการไม่ดีขึ้น ทุกครั้งเวลาเดินจะปวดเข่าขวามาก ปวด 9/10 ต้องเดินกระเผลก จึงมาพบแพทย์
ตรวจร่างกาย
ตรวจพบ จุดกดเจ็บ (Trigger point)ที่ด้านในของหัวเข่าข้างขวา
มีกระดูกหลังคด เป็นรูป ตัว S มุมกระดูกสะโพกเชิงกราน ข้างซ้ายต่ำ กว่าข้างขวา ประมาณ 2 เซนติเมตร เวลาผู้ป่วยก้มหรือแอ่นหลัง ไม่มีอาการปวดร้าวลงขา แต่มีอาการเมื่อยหลัง
เวลาเดิน จะรู้สึกเหยียบไม่เต็มเท้า และ รู้สึกเบรกไม่อยู่
พบลำกล้ามเนื้อหลังแข็งผิดปกติ เป็นมากทางด้านขวามากกว่าซ้าย
มีอาการตึงที่หลังเข่าขวามาก
Film LS spine
พบภาวะกระดูกสันหลังคดมาก ( Scoliosis) มุม Scoliosis ประมาณ 25 องศา มีมุมกระดูกเชิงกรานบิดไป และ หัวกระดูกต้นขา ( femur head) ข้างขวา สูงกว่าข้างซ้าย ประมาณ 2 เซนติเมตร
วินิจฉัย
เส้นเอ็นเข่าขวาอักเสบเรื้อรัง ( Chronic tendinitis)
กระดูกสันหลังคด ( Scoliosis)
Fibromyalgia (ผังผืดในกล้ามเนื้อหลัง)
Osteopenia (ภาวะกระดูกบาง)
วิจารณ์
ผู้ป่วยมีอาการปวดเส้นเอ็นเข่าขวามาหลายปี ได้รับการรักษาด้วยการฉีดเสตียรอยด์หลายครั้ง จนครั้งล่าสุดหลังฉีดอาการก็ยังไม่ดีขึ้น หลักการรักษาโรคใดใดก็ตาม เราต้องรู้สาเหตุ การเจ็บป่วยของคนไข้ จากการตรวจร่างกาย ของผู้ป่วยรายนี้ อาการเจ็บเอ็นที่เข่าขวา เกิดจาก มุมรับน้ำหนักที่ผิดปกติ ของข้อเข่า ซึ่งหากดูคร่าวๆ อาจคิดว่าเกิดจาก ขาผู้ป่วยข้างขวาสั้นกว่าอีกข้างหนึ่ง แต่จากการตรวจร่างกายอย่างละเอียด กลับพบว่า ขาทั้งสองข้างของผู้ป่วยเท่ากันดี แต่มีปัญหาที่กระดูกหลังคด เลยทำให้ขาขวาดูสั้นกว่า ซึ่งเวลาลงน้ำหนักที่เข่าขวา เลยทำให้เอ็นข้อเข่าด้านในรับภาระมากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการปวดเรื่อรัง การฉีดยาที่เส้นเอ็นโดยตรง ทำให้ลดการอักเสบได้ชั่วคราว แต่ถ้าไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ ก็จะกลับมาปวดอีกดังเช่นรายนี้
เคยมีผู้ป่วยกรณีแบบนี้ ได้ถูกแนะนำให้เสริมส้นรองเท้า ซึ่งในช่วงแรก อาการปวดเข่าก็จะดีขึ้น เนื่องจากมุมรับน้ำหนักกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ ถ้าใช้วิธีนี้นานๆ กระดูกหลังจะมีอาการคดมากขึ้นเรื่อยๆสุดท้ายจะพบแพทย์อีกครั้งด้วยอาการ กระดูกหลังทับเส้นประสาท มีอาการปวดหลังร้าวลงขา ดังนั้น การเสริมส้นเท้า หรือ เสริมรองเท้า จะมีที่ใช้ในกรณีผู้ป่วยที่มีขาสั้นลงจากสาเหตุต่างๆ เช่น ผ่าตัดขาจากอุบัติเหตุ เท่านั้น มิฉะนั้น จะเป็นผลเสียในระยะยาว
หลักการรักษา ในผู้ป่วยรายนี้ คือ
1 จัดกระดูกหลังที่คดให้เข้าที่ ให้กลับมาตรงมากที่สุด โดยต้องแก้ ผังผืดกล้ามเนื้อหลัง ที่ยึดกระดูกสันหลังให้คดควบคู่กันไป
2 แก้ไขการอักเสบของเส้นเอ็นที่อักเสบ
3 เสริมความแข็งแรงของกระดูก เนื่องจากผู้ป่วยมีภาวะกระดูกบาง
ผู้ป่วยถูกแนะนำให้ผ่าตัดเปลี่ยนเข่า แต่ผู้ป่วยต้องการรับการรักษาด้วยวิธีอื่นก่อนจึงได้มาปรึกษาที่คลินิก
การรักษา
1 ให้รับการทำการภาพบำบัด ด้วย การดึงหลัง จัดกระดูก อบความร้อนด้วยโคมอินฟราเรด แปะแผ่นกระตุ้นไฟฟ้า พร้อมๆ กับการฝังเข็ม วันเว้น วัน
2 ให้ใส่เฝือกดามหลัง เพื่อลดองศาและความถี่ของการใช้หลัง
3 สอนการออกกำลังตามวิธี ฤาษีดัดตน เพื่อจัดกระดูกที่คดให้ตรงขึ้น
4 ให้งดการยกของหนัก
5 ให้วิตามินบำรุงประสาท , แคลเซียม และยาบำรุงข้อต่อ [ glucosamine ] โดยให้หยุดยาแก้ปวด และยาคลายกล้ามเนื้อที่ได้รับเพื่อประเมินผลการรักษาได้ถูกต้อง ว่าอาการดีขึ้นไม่ได้เกิดจากยา
23/3/54 – 22/4/54 ผู้ป่วยได้รับการบำบัดจำนวน 10 ครั้ง ปวดที่เอ็นดีขึ้น ประมาณ 40 % เดินได้ไกลขึ้น ไม่กระเผลกแล้ว อาการเหยียบเท้าแล้วรู้สึกไม่เต็มดีขึ้น แต่ยังรู้สึกเวลาเดิน แล้วต้องการหยุด ยังหยุดได้ไม่ดี
25/4/54 – 18/5/54 ได้รับการบำบัด จำนวน 10 ครั้ง ปวดที่เอ็นเข่าขวาเวลาเดินไม่มีแล้ว แต่ถ้ากดจุดที่เคยเจ็บ ยังมีอาการเจ็บอยู่ ประมาณ 30% รู้สึกอาการเจ็บที่เอ็น ตื้นขึ้น เดินได้คล่อง มีการโยกตัวเวลาเดิน น้อยลงมาก เวลาหยุดขณะเดิน ดีขึ้นมาก แต่ยังมีอาการตึงที่ด้านหลังเข่าขวามากอยู่
23/5/54 เริ่มการบำบัดคอร์สที่ 3 โดยในคอร์สนี้เน้นการรักษาที่อาการตึงหลังเข่าขวา โดยใช้การเจาะปล่อยเลือด และ ดูด ถ้วยสุญญากาศ ร่วมด้วย
ภาพผู้ป่วย
ขอขอบคุณ คุณวันเพ็ญ ศรีฉัตราภิมุข ที่อนุญาตให้เผยแพร่ประวัติการเจ็บป่วย และการรักษา ในwww.aaclinic.com นี้ เพื่อเป็นวิทยาทานสำหรับผู้สนใจและผู้ป่วยท่านอื่นๆ ต่อไป